ขั้นตอนนำเข้าส่งออก

ขั้นตอนนำเข้าส่งออก นั้นจ่อรอคุณอยู่แล้ว เมื่อคุณเริ่มต้นซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ และไม่ว่าคุณจะนำเข้าหรือส่งออกอะไรผ่านเส้นทางไหน ก็จะต้องผ่านทั้ง 8 ขั้นตอนเหล่านี้แน่นอน วันนี้จะพาคุณเดินทางไปกับสินค้าของคุณตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนจุดสุดท้ายเลย

 

เมื่อคุณตกลงซื้อขายสินค้าแล้ว ผู้ขายก็จะเริ่มสินค้าก็จะเริ่มผลิตให้คุณหรือจัดเตรียมสินค้าในโกดังให้พร้อมส่ง ขั้นตอนหลังจากสินค้าพร้อมแล้วก็จะมีดังนี้ครับ

ขั้นตอนนำเข้าส่งออก

1. เริ่มที่หน้าโรงงานผู้ขาย

จุดแรกของการขนส่งย่อมไม่พ้นผู้ขายหรือผู้ผลิตไปได้ ซึ่งในจุดนี้ส่วนใหญ่เรามักจะเรียกมันว่า “หน้าโรงงาน” ในภาษาไทย หรือ Shipper ในภาษาอังกฤษครับ ทั้งนี้ที่เรียกว่าโรงงานก็เพื่อความสะดวกในการเรียก ถึงแม้มันจะเป็นร้านเล็ก ๆ หรือโกดังเก็บสินค้าก็ตาม ส่วน Shipper นั้นจะใช้เวลาคุยกับชาวต่างชาติเพราะแปลตรงตัวว่าผู้ส่ง/ผู้ขาย ก็อนุมานกันได้เลยว่าที่จะไปรับสินค้านั่นแหละ หรือใครจะใช้คำตรงตัวอย่าง โรงงาน Factory, โกดัง Warehouse หรือ ร้าน Shop ก็ตามสะดวกครับ ขอให้เข้าใจตรงกันว่าไปรับของที่นี่นั่นแหละครับ

2. ขนส่งในประเทศต้นทาง

เมื่อจ่ายค่าสินค้าแล้ว ขนของขึ้นรถบรรทุกแล้ว ล้อก็หมุนครับ คงจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการขนส่งทางรถเป็นการขนส่งหลักไปยังท่าเรือ/ท่าอากาศยานต่าง ๆ หรือถ้าจะมีท่ากระสวยอวกาศ ท่าเรือดำน้ำ ก็ต้องใช้การขนส่งทางรถไปอยู่ดี :D แล้วจะถ่ายสินค้าอะไรกันอีกทีก็ว่าไปครับ ช่วงนี้ชาวเฟรทอย่างผมจะเรียกมันว่า Trucking, Pick-up, Inland หรือ Inland freight ครับ

3. การทำพิธีการศุลกากรขาออก

ในขั้นตอนนี้ผู้ขาย(Shipper) หรือตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(Freight Forwarder) ที่ได้จัดซื้อจัดจ้างไว้จะมีหน้าที่ในการสำแดงสินค้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร(Customs House) ว่าสินค้าอะไรจะออกจากประเทศนั้นนั่นเองครับ จุดนี้ภาษาเฟรทเรียกว่า Outbound Customs Clearance ครับ

แนะนำให้อ่าน: ชิปปิ้งทำอะไร ตรงไหน อย่างไร?

4. ท่าเรือ/ท่าอากาศยานต้นทาง

เมื่อศุลกากรได้ตรวจปล่อยสินค้าแล้ว สินค้าก็จะได้รับอนุญาตให้เอาขึ้นเรือหรือเครื่องบินที่จัดเตรียมไว้เพื่อขนส่งออกจากประเทศผู้ขาย ในจุดนี้ภาษาเฟรทเราจะเรียกว่า Port of Loading(POL) ครับ

5. ท่าเรือ/ท่าอากาศยานปลายทาง

ตอนนี้สินค้าก็ได้เดินทางมาถึงยังประเทศของผู้ซื้อแล้วนะครับ จุดนี้เมื่อเรือหรือเครื่องบินจอดเทียบท่าแล้ว สินค้าจะถูกลำเลียงเข้าโกดังไว้ รอให้ผู้ซื้อหรือตัวแทนออกของและศุลกากรมาตรวจปล่อยสินค้าต่อไปครับ ในจุดนี้ภาษาเฟรทเราจะเรียกว่า Port of Discharge(POD) ครับ

6. พิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้า

เจ้าพนักงานศุลกากรจะมาตรวจสินค้าที่ผู้ซื้อนำเข้ามาว่าสินค้าที่คุณนำเข้ามาตรงกับที่ได้แจ้งกับกรมศุลกากรไว้หรือไม่ เสียภาษีตรงกับฐานภาษีที่กรมศุลกากรกำหนดหรือไม่ เป็นสินค้าควบคุมหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็ขนออกจากท่าเรือ/ท่าอากาศยานได้เลยครับผม จุดนี้คือ Inbound Customs Clearance ครับ

แนะนำให้อ่าน: 6 ข้อที่ชิปปิ้งของคุณควรมีให้ครบ

แนะนำให้อ่าน: วิธีคิดภาษีนำเข้าแบบง่าย

7. ขนส่งจากท่าเรือ

สินค้าที่ตรวจปล่อยแล้วก็ขนไปยังผู้รับครับ การขนส่งทางรถในประเทศไทยนั้นมีข้อกำหนดสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่กว่ากระบะด้วยนะครับ จำง่าย ๆ ว่าในช่วงจราจรคับคั่งตอนพนักงานเข้างานและเลิกงานคือช่วงที่รถใหญ่ห้ามวิ่งในเขตเมืองครับ

8. ผู้ซื้อ

ตอนนี้ขั้นตอนสุดท้ายคือ ผู้ซื้อ(Consignee) ทำการรับสินค้า ถือเป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจขนส่งสินค้าครับ ในขั้นตอนนี้ก่อนที่จะรับมอบสินค้า ผู้ซื้อที่ดีควรจะตรวจดูความเรียบร้อยของสินค้าก่อนทำการรับมอบทุกครั้งด้วยนะครับ

ผ่านไปแล้วทั้ง 8 จุดที่คุณควรจะเข้าใจก่อนทำการนำเข้าหรือส่งออกครับ ในการขนส่งแต่ละประเทศก็จะมีเวลาในการขนส่งไม่เท่ากันแต่ขั้นตอนก็จะอยู่ใน 8 ข้อนี้แน่นอน